บทที่ 2 : โครงสร้าง TCP/IP (TCP/IP Model)
คำนำ
ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โปรโตคอลสแต็ก TCP/IP คือหัวใจสำคัญที่ทำให้การสื่อสารในโลกอินเทอร์เน็ตสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเป็นมาตรฐานกลางที่ทุกระบบสามารถทำงานร่วมกันได้
บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับโครงสร้างของ TCP/IP Model, หน้าที่ของแต่ละชั้น (Layer) และตัวอย่างโปรโตคอลสำคัญในแต่ละชั้น
1. TCP/IP Model คืออะไร?
TCP/IP Model (Transmission Control Protocol / Internet Protocol Model) คือกรอบแนวคิดที่กำหนดขั้นตอนการสื่อสารข้อมูลในระบบเครือข่าย โดยแบ่งออกเป็นชั้นๆ (Layers)
แต่ละชั้นมีหน้าที่เฉพาะตัว และทำงานร่วมกันเพื่อให้ข้อมูลถูกส่งจากต้นทางไปยังปลายทางได้สำเร็จ
TCP/IP Model พัฒนามาจาก OSI Model (7 ชั้น) แต่มีการรวมชั้นให้เหลือ 4 ชั้นหลัก เพื่อความง่ายในการใช้งานจริง
2. โครงสร้าง 4 ชั้นของ TCP/IP Model
2.1 Application Layer (ชั้นแอปพลิเคชัน)
-
เป็นชั้นบนสุด ใกล้ชิดกับผู้ใช้
-
จัดการการสื่อสารระหว่างโปรแกรมกับเครือข่าย
-
โปรโตคอลสำคัญ:
-
HTTP/HTTPS – การเข้าเว็บไซต์
-
FTP/SFTP – การโอนย้ายไฟล์
-
SMTP, POP3, IMAP – การรับส่งอีเมล
-
DNS – การแปลงชื่อเว็บไซต์เป็น IP
-
SSH – การควบคุมเซิร์ฟเวอร์แบบเข้ารหัส
-
2.2 Transport Layer (ชั้นขนส่ง)
-
รับผิดชอบการส่งข้อมูลจากต้นทางถึงปลายทางอย่างถูกต้อง
-
ควบคุมความถูกต้อง ความครบถ้วนของข้อมูล
-
โปรโตคอลสำคัญ:
-
TCP (Transmission Control Protocol) – รับประกันการส่งข้อมูลถูกต้องครบถ้วน
-
UDP (User Datagram Protocol) – ส่งข้อมูลแบบรวดเร็วแต่ไม่รับประกันความครบถ้วน (เหมาะกับ video streaming, voice call)
-
2.3 Internet Layer (ชั้นอินเทอร์เน็ต)
-
จัดการเส้นทางการส่งข้อมูล (Routing) ไปยังปลายทางที่ถูกต้อง
-
โปรโตคอลสำคัญ:
-
IP (Internet Protocol) – กำหนดหมายเลข IP Address
-
ICMP (Internet Control Message Protocol) – ใช้สำหรับ ping, ส่งข้อความควบคุม
-
ARP (Address Resolution Protocol) – แปลง IP เป็น MAC Address
-
2.4 Network Access Layer (หรือ Link Layer)
-
จัดการการเชื่อมต่อทางกายภาพ เช่น การส่งข้อมูลผ่านสาย LAN หรือ Wi-Fi
-
โปรโตคอลสำคัญ:
-
Ethernet
-
Wi-Fi (IEEE 802.11)
-
PPP (Point-to-Point Protocol)
-
3. สรุปการทำงานของ TCP/IP Model
เพื่อให้เข้าใจง่าย ลองมองภาพการส่งอีเมลดังนี้:
ขั้นตอน | ชั้น | ตัวอย่างโปรโตคอล |
---|---|---|
ผู้ใช้พิมพ์อีเมล | Application | SMTP |
แบ่งข้อมูลเป็นส่วนย่อยๆ | Transport | TCP |
กำหนดเส้นทางปลายทาง | Internet | IP |
ส่งข้อมูลผ่านเครือข่าย | Network Access | Ethernet, Wi-Fi |
4. เปรียบเทียบ TCP/IP Model กับ OSI Model
OSI Model (7 ชั้น) | TCP/IP Model (4 ชั้น) |
---|---|
Application | Application |
Presentation | Application |
Session | Application |
Transport | Transport |
Network | Internet |
Data Link | Network Access |
Physical | Network Access |
TCP/IP Model รวมชั้น Presentation, Session ไว้ใน Application เพื่อความกระชับ
5. ข้อดีของ TCP/IP Model
-
เป็นมาตรฐานกลาง ใช้ได้ทุกระบบ
-
รองรับการขยายตัวของอินเทอร์เน็ต
-
มีความยืดหยุ่นสูง
-
พัฒนาและปรับปรุงได้ง่าย
6. บทสรุป
ความเข้าใจเรื่อง TCP/IP Model เป็นหัวใจของการทำงานระบบเครือข่ายแทบทุกระบบ หากคุณเข้าใจโครงสร้างนี้ดี จะสามารถวิเคราะห์ปัญหาเครือข่าย วางระบบ หรือออกแบบโปรแกรมที่สื่อสารผ่านเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในบทถัดไป เราจะไปทำความรู้จักกับ IP Address และ Subnet Mask เพื่อเข้าใจการระบุตัวตนในระบบเครือข่าย
คำแนะนำเพิ่มเติม
-
ลองฝึกวาดแผนภาพ TCP/IP Model พร้อมตัวอย่างโปรโตคอลแต่ละชั้น
-
สังเกตว่าแต่ละวันคุณใช้โปรโตคอลใดบ้างในชีวิตประจำวัน
-
ทดลองใช้คำสั่งเช่น
ping
,tracert
หรือnslookup
บนคอมพิวเตอร์
ป้ายกำกับ
บทความ
Facebook SDK
CSS Content ( แสดงทุกหน้าของบทความ )
COKKIE POPUP